ผ้าใบกันสาด ผืนผ้าใบส่วนใหญ่แล้วโดยปกติจะมีการอายุการใช้งานที่ยาวนาน ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับการใช้งานรวมถึงการดูแลรักษาของผู้ใช้ด้วย โดยคมนครจึงขอแนะนำวิธีการยืดอายุการใช้งานของกันสาดผ้าใบทั้งผ้าใบกันสาดชักรอกหรือผ้าใบกันสาดมือหมุนแนวดิ่งดังนี้ครับ
ม้วนเก็บเมื่อไม่ใช้งาน
การที่เรากางผ้าใบกันสาดทิ้งไว้นั้นทำให้ผ้าใบโดนแดดหรือฝนตลอดเวลา หากไม่จำเป็นต้องใช้งานแล้วแนะนำให้ม้วนพับเก็บไว้จะดีกว่า เนื่องจากช่วยถนอมแผ่นผ้าใบไม่ให้โดนความร้อนจากแดดโดยที่ไม่จำเป็น ซึ่งแดดและฝนจะเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้ผ้าใบของเราขาดง่ายมากขึ้น เนื้อจากสารเคลือบผิวจะถูกชะล้างเรื่อย ๆ จนบางลงและขาดในที่สุด
ม้วนเก็บเมื่อกันสาดผ้าใบแห้งสนิท
บางครั้งที่ผ้าใบยังไม่แห้งสนิทจากการถูกฝน แนะนำว่าอย่างพึ่งม้วนเก็บผ้าใบ เนื่องจากถ้าเราม้วนเก็บในขณะที่ผ้าใบยังเปียกอยู่จะทำให้เกิดความชื้นกับผ้าใบ นำมาซึ่งปัญหาการเกิดเชื้อราในเส้นใยของผ้าใบ ทำให้ผืนผ้าใบบริเวณนั้นเปราะบางและอาจขาดได้
ระมัดระวังไม่ให้น้ำขังบนผืนผ้าใบกันสาด
ปัญหานี้มักเกิดจากการที่ผ้าใบกันสาดชักรอกมีขาค้ำยันแล้วค้ำยันสูงจนเกินไปทำให้ผ้าใบเกือบขนานกับพื้น และเมื่อฝนตกทำให้เกิดน้ำขังบนพื้นผ้าใบ เมื่อน้ำขังเป็นเวลานานจะมีความร้อนจากแสงแดดเกิดขึ้น ความร้อนสะสมของน้ำที่ขังจะทำให้สารเคลือบผิวผ้าใบหลุดล่อนออกมา ผ้าใบส่วนนั้นก็จะบางลงรวมถึงอาจเกิดเชื้อราได้ด้วย
หลีกเลี่ยงการโดนของมีคม
ปัญหาแบบนี้มักจะเจอกับพวกกิ่งไม้ซึ่งผู้ใช้งานเองอาจไม่ทันสังเกต กิ่งไม้ที่ทิ่มผ้าใบเป็นระยะเวลานานอาจทำให้กันสาดผ้าใบขาดได้ครับ หรืออีกกรณีคือเมื่อลมแรงทำให้ผ้าใบกระพือแล้วเสียดสีกับกิ่งไม้อาจทำให้ผ้าใบกันสาดขาดได้เช่นกัน
สรุป การยืดอายุการใช้งานของกันสาดผ้าใบไม่ใช่เรื่องยากเลย เพียงแค่หลีกเลี่ยงการโดนแดดหรือฝนในขณะที่เราไม่ได้ใช้งาน หลีกเลี่ยงการทำให้น้ำขังบนผ้าใบกันสาดรวมถึงการม้วนเก็บในขณะที่ยังเปียกอยู่ และสุดท้ายระมัดระวังก็โดนของมีคม ทั้งนี้หากต้องการดูข้อมูลทั้งหมดที่เกี่ยวกับผ้าใบกันสาด ผ้าใบชักรอก ผ้าใบมือหมุนแนวดิ่ง คลิกที่นี่